วางแผนธุรกิจ ร้านขายน้ำส้มคั้น ให้ทุนต่ำกำไรสูง

เหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกเปิด ร้านขายน้ำส้มคั้น ทำน้ำส้มคั้นสดจำหน่ายเอง เนื่องจากสามารถทำเป็นงานเสริมจากงานประจำได้ หากขายจำนวนไม่มากก็ทำคนเดียวได้อย่างสบาย ลงทุนไม่สูง แหล่งซื้อวัตถุดิบมีให้เลือกมากมาย ขายออกง่าย ผู้คนนิยมดื่มเพราะมีวิตามิน C สูง แถมอร่อย สดชื่น      

แต่กว่าที่ใครสักคนจะเข้ามาโลดแล่นในวงการนี้ได้อย่างเฉิดฉาย จน ร้านขายน้ำส้มคั้น ของตนเองเป็นที่รู้จัก ต้องผ่านการลองผิดลองถูกมาด้วยกันทั้งสิ้น ขาดทุนบ้าง กำไรบ้าง โดยอย่าลืมว่าการเลือกอุปกรณ์ วัตถุดิบที่ดี และการคำนึงถึงต้นทุน เป็นองค์ประกอบสำคัญในการเปิดร้านขายน้ำส้มคั้นนั่นเอง        

และวันนี้เรามีแนวทางวางแผนธุรกิจ ร้านขายน้ำส้มคั้น ให้ทุนต่ำกำไรสูง มาฝากกัน…

ต้นทุนการผลิตน้ำส้มคั้นสดจำหน่าย

วัตถุดิบ

วัตถุดิบหลักๆ ของร้านขายน้ำส้มคั้น คือส้ม ซึ่งหากจะผลิตน้ำส้มคั้นสดให้ได้ครบทั้งรสชาติ กลิ่น และสีสัน อาจต้องเลือกส้มหลายสายพันธุ์มาผสมกัน อย่างเช่นสูตรของบริษัท Orgeness จะใช้ผลส้มจาก 3 สายพันธุ์ คือ สายน้ำผึ้ง ส้มเขียวหวาน และส้มโชกุน เพื่อให้ได้ทั้งรูป รส กลิ่น และประโยชน์ครบทุกด้าน 

แต่ถ้าต้องการลดต้นทุนวัตถุดิบ อาจเลือกส้มเพียงสายพันธุ์เดียว ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมใช้พันธุ์สายน้ำผึ้ง เพราะมีความโดดเด่นในเรื่องของกลิ่นหอมชัดเจน และเนื้อส้มเยอะ โดยเลือกส้มขนาดประมาณเบอร์ 3 เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำเยอะ และราคาไม่สูงมาก ราคาจะอยู่ประมาณกิโลกรัมละ 20-45 บาท (ช่วงเดือน พ.ค.67)     

ดังนั้น ส้มขนาดเบอร์ 3 จำนวน 1 กิโลกรัม จะคั้นได้น้ำประมาณ 35-37% หรือได้น้ำส้มประมาณ 350 ml. มีต้นทุนอยู่ที่ 20-45 บาท  

อุปกรณ์

อุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับร้านขายน้ำส้มคั้น คือ เครื่องคั้นน้ำส้ม ซึ่งมีให้เลือกหลายขนาด หลายราคา หลายยี่ห้อ และคุณสมบัติแตกต่างกัน ร้านขายน้ำส้มคั้นทำเอง ควรเลือกเครื่องคั้นน้ำส้มที่มีกำลังการผลิตรองรับต่อปริมาณน้ำส้มที่คาดว่าจะขาย เพื่อให้เครื่องคั้นน้ำส้มทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ อย่างเช่นเครื่องคั้นน้ำส้มแบบคั้นมือ จะต้องใช้แรงกดเยอะ แต่แรงมากไปก็จะทำให้เกิดรสขมของเปลือกส้มติดมาด้วย    

นอกจากนี้ให้เลือกเครื่องคั้นน้ำส้มที่ทำจากสเตนเลส เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราปนเปื้อนในน้ำส้มคั้น ซึ่งราคาค่อนข้างสูง เช่นเครื่องคั้นน้ำส้มแบบคั้นมือ ราคาประมาณ 300 บาทขึ้นไป จนถึงหลักพัน และหากต้องการผลิตน้ำส้มคั้นจำหน่ายในปริมาณมาก ก็จำเป็นต้องใช้เครื่องคั้นน้ำส้มระบบเครื่องจักร ก็จะยิ่งเพิ่มต้นทุนในการผลิตให้สูงขึ้นอีก

แพ็กเกจจิงขวด ฉลากสินค้า

นอกจากต้นทุนของวัตถุดิบอย่าง “ส้ม” และอุปกรณ์สำคัญอย่าง “เครื่องคั้นน้ำผลไม้” แล้ว แพ็กเกจจิงอย่างเช่น “ขวดและสติกเกอร์ ฉลากสินค้า” ก็ถือเป็นต้นทุนที่จำเป็นต่อการผลิตน้ำส้มคั้นสดจำหน่าย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะใช้เป็นขวดพลาสติก PP และขวดแก้ว ซึ่งก็จะเป็นตัวกำหนดราคาต้นทุนของน้ำส้มคั้นต่อขวดด้วย

โดยหากเลือกเป็นขวดพลาสติก PP ซึ่งเป็นขวดที่มีลักษณะพลาสติกแข็ง ทนความร้อนได้ดี ราคาจะอยู่ที่ประมาณขวดละ 1-3 บาท (ขวด+ฝา ขนาด 300 CC) แต่ถ้ากลุ่มลูกค้าเป็นระดับพรีเมียม และเพื่อให้ดูหรูหราดูดีขึ้น ก็จะนิยมใช้เป็นขวดแก้ว ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความต้านทานต่อแรงกดและแรงดันภายในสูง ขนาด 200-250 CC ราคาอยู่ที่ประมาณขวดละ 8-10 บาท   

ส่วนสติกเกอร์หรือฉลากสินค้า ราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนสีที่พิมพ์ รวมถึงต้องซื้อในปริมาณมากจึงจะได้ราคาถูกลง ก็ต้องคำนวณต้นทุนในส่วนของสติกเกอร์ด้วย   

ค่าแรง ค่าน้ำมัน ค่าล้างส้ม ล้างขวด

แน่นอนว่าเมื่อมีการผลิตน้ำส้มเพื่อจำหน่าย ก็ต้องมีค่าแรงการผลิต ทั้งในส่วนของการทำความสะอาด คั้นน้ำส้ม ทำความสะอาดฆ่าเชื้อขวดก่อนนำมาใช้ บรรจุขวด เป็นต้น ซึ่งหากทำขายเองไม่มากอาจสามารถทำเองได้ ก็จะประหยัดต้นทุนค่าแรงของตนเองได้

แต่นอกจากนี้ยังมีต้นทุนในการเดินทางซื้อวัตถุดิบ ส่งสินค้าในกรณีที่ซื้อจำนวนมาก ต้องมีการวิ่งไปส่งให้เอง ก็ต้องคำนวณต้นทุนในส่วนนี้เพิ่มด้วย ตัวอย่างเช่น ต้องส่งน้ำส้มคั้นสดบรรจุขวดปริมาณมาก ต้องวิ่งไปส่งระยะทาง ไป-กลับ 30 กิโลเมตร ก็จะได้เป็นค่าเดินทาง 30 x 2 = 60 บาท   

ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนการผลิตน้ำส้มคั้นบรรจุขวด

เมื่อลองคำนวณต้นทุนคร่าวๆ จากข้อมูลข้างต้นแล้ว จะพบว่า…  

– ส้ม 1 กิโลกรัม คั้นเป็นน้ำส้มได้ประมาณ 350 ml. ซึ่งบรรจุลงขวดขนาดเล็ก 300 cc จะได้ประมาณ 1 ขวด นิดๆ ราคาประมาณ 15 บาท

– ค่าขวดพลาสติก PP ขนาด 300 cc ราคา 2 บาท/ขวด (ต้องสั่งขั้นต่ำ 150 ขวด)

– สติกเกอร์ชิ้นละประมาณ 0.5 บาท (ต้องสั่งจำนวนเยอะ)

และเมื่อคิดเป็นต้นทุนต่อขวด ยังไม่นับรวมวัตถุดิบอื่น เช่น น้ำเชื่อม เกลือ ค่าส่ง (ถ้ามี) = 15 + 2 + 0.5 บาท = 17.5 บาท แต่ร้านขายน้ำส้มคั้นทำเอง จะต้องเผื่อใจไว้สำหรับต้นทุนไม่คงที่ ราคาวัตถุดิบมีขึ้นลง คุณภาพ รสชาติของส้มก็ไม่คงที่ หากผลิตเองแบบไม่ได้มาตรฐานจะไม่สามารถควบคุมได้เลย

อีกทั้งถ้าหากผลิตน้ำส้มคั้นสด ปิดฝา ปิดผนึก แต่ไม่ได้ขายเองโดยส่งไปขายที่อื่น จะเข้าหลักเกณฑ์ อย. ซึ่งต้องขออนุญาต อย. ก่อน รวมถึงหากผลิตในปริมาณมาก จะต้องจดทะเบียนสรรพสามิตสำหรับผู้ประกอบอุตสาหกรรมด้วย   

ตัวช่วยลดต้นทุนเพิ่มกำไรที่โรงงานผลิตน้ำส้มคั้นบรรจุขวด Orgeness  

ทั้งนี้ หากเจ้าของธุรกิจเลือกใช้บริการผลิตน้ำส้มคั้นบรรจุขวดจากโรงงานผลิตที่ได้คุณภาพอย่างเช่นที่ Orgeness สามารถคำนวณต้นทุนคร่าวๆ ได้ คือ

– น้ำส้มขนาด 220 ml. 100 ขวด (ราคาส่งขวดละ 13.50 บาท) = 1,350 บาท

– นำไปจำหน่ายราคาปลีกต่อขวด ได้ขวดละ 35 บาท (100 ขวด) = 3,500  

– จะได้กำไร = 2,150 บาท  

ดังนั้น ร้านขายน้ำส้มคั้นอาจต้องใช้ตัวช่วย เป็นการเลือกหาโรงงานรับผลิตน้ำส้มคั้นสด ที่มีบริการครบวงจร เพื่อช่วยประหยัดต้นทุน และได้สินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างเช่นโรงงานผลิตและขายส่งน้ำส้มคั้นบรรจุขวด Orgeness ซึ่งเป็นโรงงานที่รับผลิตน้ำส้มคั้นสด และมีบริการเสริมครบวงจร สามารถรับไปจำหน่ายได้เลยแบบไม่ต้องกังวล โดยสามารถปรึกษาพูดคุยกับ Orgeness เพื่อควบคุมต้นทุนของตนเองได้       

วางแผนธุรกิจ ร้านขายน้ำส้มคั้น ให้ทุนต่ำกำไรสูง

ดูเพิ่มเติม
ฮาลาล

ทำไมน้ำส้มคั้นที่คุณดื่ม ควรมีมาตรฐาน ฮาลาล รองรับ

ดูเพิ่มเติม
สูตรทำน้ำส้มบรรจุขวด

เปิด สูตรทำน้ำส้มบรรจุขวด สด สะอาด สไตล์ Orgeness  

ดูเพิ่มเติม
ขายส่งน้ำส้มคั้นบรรจุขวด

หลักการเลือกโรงงานผลิต – ขายส่งน้ำส้มคั้นบรรจุขวด อย่างไรให้คุ้มค่า

ดูเพิ่มเติม
น้ำส้มขายส่ง

น้ำส้มขายส่ง ลักษณะใดซื้อมาขายแล้วรุ่ง

ดูเพิ่มเติม
น้ำส้มคั้นสด

น้ำส้มคั้นสด สูตร Healthy น้ำตาลน้อย ควรกี่แคล?

ดูเพิ่มเติม

ทำความรู้จัก Orgeness โรงงานน้ำส้ม มาตรฐานการผลิตระดับสากล

ดูเพิ่มเติม
น้ำส้มคั้น

9 เทคนิค เลือกดื่ม น้ำส้มคั้น แบบไหนได้ประโยชน์สูงสุด

ดูเพิ่มเติม